ด้วยแนวโน้มการซื้อสินค้าของผู้บริโภคในปัจจุบันที่หันเหไปทางออนไลน์เป็นหลัก ทำให้แต่ละแพลตฟอร์มโซเชียล มีเดียมีการพัฒนาระบบรองรับการขายสินค้าออนไลน์มากขึ้น แน่นอนว่าบรรดาพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์เองต่างก็ต้องดิ้นรน แข่งขันเพื่อเพิ่มยอดขายให้ตัวเอง
ในวันนี้ Salesbear จึงอยากนำกลยุทธ์น่าสนใจ ที่จะช่วยให้การขายของบนโซเชียลมีเดียเป็นไปได้อย่างราบรื่น ยอดขายพุ่งอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
กลยุทธ์ที่หนึ่ง รู้จักพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้า
ก่อนจะเริ่มสร้างโพสต์ขายของที่ดึงดูดผู้คนได้นั้น กลยุทธ์ขั้นพื้นฐานแต่สำคัญก็คือ การเรียนรู้และเข้าใจถึงสิ่งที่ลูกค้ากำลังมองหาอยู่จริง ๆ ยิ่งได้รู้จักกลุ่มเป้าหมายของตัวเองมากเท่าไร ก็ยิ่งนำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการได้มากเท่านั้น นอกจากนี้ยังสามารถกำหนดช่องทางที่เหมาะแก่การขายของให้กลุ่มเป้าหมายได้ง่ายขึ้น
กลยุทธ์ที่สอง คาแรคเตอร์และอิมเมจของแบรนด์ต้องมี
การจะขายของออนไลน์ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียให้มียอดพุ่งนั้น คาแรคเตอร์ของแบรนด์คือสิ่งที่จำเป็นต้องกำหนดให้เรียบร้อย ยิ่งถ้าสินค้าของเรามีคู่แข่งจำนวนมาก การสร้างภาพลักษณ์ชัดเจน รวมถึงการพรีเซนต์ตัวสินค้าให้โดดเด่นกว่าใคร ก็จะกลายมาเป็นข้อได้เปรียบที่ทำให้ผู้คนรู้จักและจดจำแบรนด์ของคุณได้ดียิ่งขึ้น
กลยุทธ์ที่สาม สร้างคอนเทนต์ที่น่าสนใจให้ถูกแพลตฟอร์ม
เมื่อคุณมีสื่อโซเชียลอยู่ในมือแล้ว สิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับต่อไปคือ การสร้างคอนเทนต์ให้โดนใจลูกค้า อย่างไรก็ตาม การจะทำคอนเทนต์นั้น คุณต้องทราบก่อนนะว่า ช่องทางที่จะใช้นั้น เหมาะกับคอนเทนต์ประเภทไหน เช่น
- Facebook : ควรเน้นคอนเทนต์แนวเล่าเรื่อง (storytelling) ให้ลูกค้าได้รู้ถึงที่มาของสินค้าและแบรนด์ โดยสามารถสื่อเรื่องราวผ่านทางรูปภาพหรือ Video ที่ดึงดูดความรู้ของคนดูได้อยู่หมัด
- Instagram : ควรเน้นไปที่รูปภาพสวยงามและ Video สั้น ในส่วนของแคปชันไม่ต้องยาวมาก เน้นไปที่พอยส์ที่คุณต้องการสื่อในโพสต์นั้น ๆ ได้เลย
- Twitter : ควรเน้นที่คอนเทนต์แนะนำสินค้า โดยใช้ข้อความสั้น ๆ กระชับ และตรงตัว
- LINE Official Account : ควรเน้นเนื้อหาที่ส่งเสริมการขายเป็นหลัก เช่น โปรโมชันต่าง ๆ หรือพวกคอนเทนต์แนะนำสินค้าใหม่ประจำซีซั่น เป็นต้น
กลยุทธ์ที่สี่ สร้างแคมเปญหรือโปรโมชันเพื่อดึงดูดลูกค้า
ถือเป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่ได้เสียงตอบรับกลับมาดีมาก ๆ ทีเดียว เพราะคนส่วนใหญ่ต่างชอบคำว่า โปรโมชัน กันอยู่แล้ว ซึ่งหากแบรนด์ของคุณสามารถจัดโปรที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ งานนี้ก็รับรองเลยว่า ร้านของคุณจะขายดีเป็นเทน้ำเทท่าแน่นอน นอกจากนี้ การทำแคมเปญให้ลูกค้ามีส่วนร่วมด้วยนั้น นอกจากจะเป็นการช่วยเพิ่มยอดขายได้แล้ว ยังเป็นการทำให้ลูกค้ารู้สึกได้เป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์ ซึ่งนั่นจะช่วยให้ร้านค้าสามารถรักษาลูกค้าเก่าไว้ได้นานอีกด้วย
กลยุทธ์ที่ห้า อย่าลืมที่จะเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมาย
จริงอยู่ว่าการทำคอนเทนต์เจ๋ง ๆ มันช่วยดึงดูดความสนใจได้ดี แต่ถ้าพ่อค้าแม่ค้าไม่สนใจที่จะมีปฏิสัมพันธ์อะไรกับลูกค้าเลย การจะขายของได้นั้นก็อาจจะยังยากเกินไปหน่อย ซึ่งการพูดคุยโต้ตอบกับลูกค้าด้วยคำพูดที่สนุกสนานแต่ยังคงอยู่ในขอบเขตของคาแรคเตอร์ที่กำหนดไว้ นับเป็นวิธีที่จะทำให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกดีต่อแบรนด์และเพิ่มโอกาสในการขายได้มากขึ้น
จะเห็นได้ว่า ทั้ง 5 ข้อที่เอามาแนะนำนั้น เป็นสิ่งที่แบรนด์ดัง ๆ ใช้กันประจำ ซึ่งหากพ่อค้าแม่ค้าคนไหนทำตามทั้ง 5 ข้อนี้ได้ เตรียมตัวขายดิบขายดี จนตอบแชตแทบไม่ทันกันได้เลย